แบบทดสอบอัตนัย
แบบทดสอบแบบอัตนัยเป็นแบบสอบที่เปิดโอกาสให้ผู้ตอบได้สามารถแสดงออกโดยใช้ ภาษาของตนเองในการทา แบบทดสอบประเภทนี้ผู้สอบต้องมีความสามารถในการจัดระเบียบของความ รู้แสดงความคิดริเริ่มและรู้จักการสังเคราะห์ข้อความได้อย่างเหมาะสม และ สามารถใช้วัดในลักษณะ กระบวนการ (Process) ต่างๆได้อย่างมากมายจะให้ผู้ตอบเปรียบเทียบ ให้คำจำกัดความ ตีความหรือ แปลความ ประเมินผลหรืออธิบายความสัมพันธ์ก็ได้ ดังน้ันในการตรวจให้คะแนนข้อสอบนี้จึงตอ้งสร้าง เกณฑ์ไว้ให้ดี มีแนวการตรวจตรงกัน
ประเภทของแบบทดสอบแบบอัตนัย
แบบทดสอบแบบอัตนัย ถ้าแบ่งตามลักษณะของความอิสระในการตอบ จะแบ่งอย่างกว้างๆ ได้เป็ น
2 ประเภท คือ(บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธ์ิ2535: 63)
1แบบจำกัดคำตอบ (Restricted-response Questions) เป็ นคำถามที่จำกัดให้ตอบท้ัง
เนื้อหา (Content)และรูปแบบ (Form) ของการคำตอบ โดยจำ กัดขอบเขตของเนื้อหาและประเด็นใหตอบ เช่น
1 ตรงเปรียบเทียบความเเตกต่างที่สำคัญระหว่างข้อสอบอัตนัยเเละประนัย
2 จงยกตัวอย่างการกระทำที่แสดงถึงความเป็นพลเมืองดีมา 5 ข้อ
ส่วนดีของข้อสอบแบบนี้คือ สร้างง่าย ใช้วัดความรู้ ความสามารถเฉพาะจงได้ดี แต่ไม่ให้ความ
อิสระในการตอบน้อย ผู้ตอบไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่
2.แบบไม่จำกัดคำตอบ (Extended Response Questions) เป็นแบบคำถามที่เปิดโอกาส
ให้ผู้ตอบแสดงความสามารถในความคิดได้อย่างกว้างขวางไม่มีข้อจำกัดผู้ตอบมีอิสระในการที่จะเลือกใช้
ความรู้หรือข้อเท็จจริงใดๆ มาตอบก็ได้ผู้ตอบเป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกประเด็นเองเน้นเสรีภาพของการ
แสดงออกยั่วยุให้ผู้ตอบเกิดความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์เช่น
1.จงเเสดงความคิดเห็นเกีายวกับการสอนวิชาวิทยาศาตร์
2. ท่านคดิว่าประชาชนได้รับประโยชน์อย่างไรบ้างจากการกู้ยืมเงินจากต่างชาติมาใช้ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
แบบทดสอบปรนัย
แบบทดสอบแบบปรนัย คือข้อสอบที่มีคำตอบไว้ให้แล้ว ผู้ตอบตัดสินใจเลือกตามที่ต้องการหรือ
พิจารณาข้อความที่ให้ไว้ว่าถูกต้องหรือไม่
แบบทดสอบแบบปรนัยหมายถึง แบบทดสอบที่มีคุณสมบัติ 3 ประการดังนี้
1) ชัดแจ้งในความหมายของคำถาม
2) ตรวจให้คะแนนได้ตรงกัน
3)แปลความหมายของคะแนนได้ตรงกัน
โดยทั่วไปข้อสอบปรนยัน้นัผตู้อบถูกได้1 ตอบ
ผิดได้0 คะแนน จำนวนคะแนนที่ได้จะแทนจำนวนข้อที่ถูก ทำให้สามารถแปลความหมายได้ชัดเจนว่าใคร
เก่งอ่อนอย่างไร ตอบถูกมากน้อยต่างกันอย่างไร
ประเภทของแบบทดสอบแบบปรนัยที่นิยมใช้และเป็นที่รู้จักมี 4 ประเภท
1. แบบถูก-ผิด (True-False)ข้อสอบแบบถูกผิดมีลักษณะเป็นข้อสอบแบบเลือกตอบที่มี2 ตัวเลือก
ผู้ตอบ มีโอกาสเลือกตอบเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งอาจตอบว่าใช่-ไม่ใช่, ถูก-ผิด, จริ ง-ไม่จริง, เป็ นต้น ตัว
คำถามของขอ้สอบประเภทนี้จะเขียนในรูปประโยคบอกเล่าธรรมดา หรืออาจเป็นรูปคำถามโดยมีข้อความถูก
บ้างผิดบ้างคละเคล้ากันไป ซึ่งผู้ตอบจะต้องเลือกตัดสินใจว่า ข้อความใช่หรือไม่ใช่
ข้อสอบแบบถูก-ผิดนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าใช้วัดได้เฉพาะความรู้ความจำและความจริ ง
แล้วสามารถวัดความเข้าใจและการนำไปใช้ได้ด้วย (บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธ์ิ2535 : 106)
2. แบบเติมคำ(Completion) หรือตอบสั้น (Short Answer)ข้อสอบแบบเติมคำเป็นข้อสอบประเภท
ให้ตอบสั้น ๆ มีขอบเขตในการตอบคำถาม อาจอยู่ในรูปคำถามหรือในรูปประโยคบอกเล่าที่เป็นข้อความ
ไม่สมบูรณ์โดยเว้นช่องว่างสำหรับให้เติมคำหรือข้อความ ให้ได้ความถูกต้องสมบูรณ์
3. แบบจับคู่(Matching)ข้อสอบแบบจับคู่เป็นข้อสอบที่กำหนดคำหรือข้อความเป็น 2 คอลัมน์แล้ว
กำหนดให้ผู้ตอบเลือกหรือข้อความจากคอลัมน์หนึ่งไปใส่ในคำหรือข้อความอีกคอลัมน์หนึ่งที่มี
ความสัมพันธ์หรือสอดคล้องกัน ข้อสอบประเภทนี้คลา้ยกับข้อสอบแบบเลือกตอบ แต่ตัวเลือกไม่แน่นอน
ตายตัวเพราะตัวเลือกจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อเลือกตอบไปแล้ว
4. แบบเลือกตอบ (Multiple Choices)ข้อสอบแบบเลือกตอบเป็นข้อสอบปรนัยที่นิยมใช้กันมากกว่า
ข้อสอบปรนัยแบบอื่น ข้อสอบประเภทนี้มีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่2 ส่วน คือ (ชวาลแพรัตกุล 2516: 166)
1) ตัวคำถาม (Stem)
2) ตัวเลือก (Choices หรือ Options) ซึ่งแบ่งเป็ น 2 ประเภทคือ
- ตัวถูก (Correct Choice)
- ตัวลวง (Decoys หรือ Distracters)
ข้อสอบแบบเลือกตอบที่ดีน้ัน ตวัเลือกทุกตัวจะมีน้ำหนกักพอๆ กนั ถ้าดูเผินๆหรือไม่มีความรู้ในข้อ
น้ันจริงจะเห็นว่าถูกหมดทุกข้อ และในการสอบแต่ละคร้ัง ตัวเลือกแต่ละตัว จะมีโอกาสถูกเลือกพอๆ กัน สำหรับข้อสอบแบบเลือกตอบที่มีลักษณะถูกหรือผิดอย่างเด่นชัดทำให้ข้อสอบขาดคุณค่า และขาด
คุณลักษณะความเป็นปรนัยอันเป็นคุณสมบัติสำคัญของ ข้อสอบประเภทนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น